KINDLE’S WAY: บทความที่เล่าเบื้องลึกของ kindle และ Amazon อย่างเข้มข้น สำหรับ kindle Power User ไม่ควรพลาด!! พบกันได้ได้ที่นิตยสาร GM ครับ [อ่านตอนอื่นๆ ได้ที่นี่เลย]
ในอเมริกา, เราจะพบผู้ใช้ Kindle ได้ง่าย ไม่ต่างกับที่พบผู้ใช้ iPhone ในบ้านเรา
พฤติกรรมผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาเปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน นักอ่านส่วนใหญ่เริ่มซื้อหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ออนไลน์ เพราะได้ทั้งความสะดวกในการสั่งซื้อและพกพา รวมไปถึง ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ทั้งค่าเดินทาง และค่าหนังสือที่ถูกกว่าหนังสือจริงหลายเท่าตัว
ในปี 2550, เป็นปีที่ Amazon ตัดสินใจ เปิดตลาดใหม่จากเดิม นั้นก็คือ การเปิดตัวเครื่องอ่านหนังสือโดยเฉพาะ หรือที่เรียกว่า Kindle พร้อมด้วยระบบซื้อขาย eBook Online อย่าง Kindle Store ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม จวบจนถึงปัจจุบัน โดยพิสูจน์ได้จากยอดขายของ eBook ที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งแซงหน้ายอดขายของหนังสือจริงไปแล้ว ในปี 2011 และมองไม่เห็นเลยว่า ตัวเลขดังกล่าวนี้จะลดลงเลย ในขณะที่ยอดขายของหนังสือจริงนั้น เริ่มเห็นการเติบโตแบบถดถอยแล้ว
“เราเชื่อว่า ปรากฎการณ์นี้ จะต้องเกิดขึ้นสักวันหนึ่ง แต่เราก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่ามันจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้” Jeff Bezos, ประธานและผู้ก่อตั้งบริษัท Amazon.com เอง ก็ยังเหลือเชื่อกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เพราะเขาใช้เวลาขายหนังสือจริงใน Amazon มาถึง 15 ปี ในขณะที่ใช้เวลาขาย eBooks เพียง 4 ปี เท่านั้น ก็ทำให้ eBook มียอดขายมากกว่าหนังสือจริงแล้ว
เมื่อคลื่นความเจริญของเทคโนโลยี เริ่มเคลื่อนที่มาสู่บ้านเราเรื่อยๆ ระบบสาธารณูปโภคก็ได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสิ่งนี้ เป็นตัวแปรสำคัญ ที่ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคในบ้านเรามีการเปลี่ยนแปลง และเริ่มใกล้เคียงกับวิถีชีวิตของคนในต่างประเทศมากขึ้น สังเกตุได้จากการพิมพ์ข้อความ (Texting) แทนการใช้โทรศัพท์พูดคุยกันเหมือนก่อน จนพฤติกรรมนี้ กลายเป็นเรื่องปกติในสังคมไทย มันจะเป็นไปได้ไหม ที่กระแสการอ่าน eBook ผ่านอุปกรณ์โดยเฉพาะอย่าง Kindle, จะได้รับความนิยมในบ้านเรา เช่นเดียวกับในประเทศสหรัฐอเมริกา?
ปี 2555 นี้ เป็นปีแรกที่ Kindle เริ่มมีบทบาทในประเทศไทยอย่างชัดเจน สังเกตได้จาก เริ่มมีการวางจำหน่าย Kindle ในรูปแบบต่างๆ ทั้งในห้างสรรพสินค้า, ร้านค้าเล็กๆ ไปจนถึง ร้านค้าออนไลน์ หรือผ่านเฟสบุ๊ก จนเกิดเป็นกระแส และเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ
ทางเว็บไซต์ eReaderOK.com สนใจศึกษาข้อมูลพฤติกรรมของผู้ใช้ Kindle ในประเทศไทย จึงจัดทำแบบสำรวจกับผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถามทั้ง 527 ท่าน โดยได้รับข้อมูลที่น่าสนใจมากมายดังนี้
ในจำนวนคน 100 คน เราจะพบผู้ใช้ Kindle เพียง 6 คนเท่านั้น แต่ยังมีอีก 20 คนที่เริ่มสนใจหาซื้อ Kindle มาใช้ โดยการใช้งานของ Kindle ส่วนใหญ่ 90% จะเน้นการอ่านหนังสือทั่วไป หรืออ่านไฟล์ PDF สำหรับการทำงานและการศึกษา ส่วน 10% สุดท้าย จะใช้ Kindle สำหรับการอ่านหนังสือการ์ตูน
มีเพียง 7% เท่านั้น ที่พกเครื่อง Kindle เดี่ยวๆ โดยไม่มีอุปกรณ์พกพาประเภทอื่นเลย ในขณะที่ผู้ใช้ที่มี iPad อยู่แล้ว บางส่วนก็ยินดีจ่ายเงิน เพื่อซื้อ Kindle มาสมทบ สำหรับใช้ในการอ่านหนังสือ โดยคิดเป็น 34% ของผู้ใช้ Kindle ทั้งหมด ซึ่งสรุปได้ว่า ความสามารถต่างๆ ของ iPad อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์นักอ่านได้ทั้งหมด โดยสังเกตได้จาก ผู้ใช้ Kindle ส่วนใหญ่ 47%่ ชอบจอภาพ eInk Technology ของ Kindle ที่ทำให้อ่านได้อย่างสบายตา เพราะไม่มีแสงสะท้อน นอกจากนี้ ผู้ใช้อีก 23% ก็ชอบตัวเครื่อง Kindle ที่มีน้ำหนักเบากว่า iPad ถึง 3 เท่าด้วย
แม้ปีนี้ จะเป็นปีแรก ที่ Kindle เข้าสู่ตลาดในประเทศไทย แต่เราพบว่า ช่วงอายุของผู้ใช้ Kindle นั้นกว้างมาก โดยมีช่วงอายุตั้งแต่ 18 – 34 ปี คิดเป็น 70% ของผู้ใช้ Kindle ทั้งหมด ซึ่งแตกต่างกับช่วง iPhone ที่เพิ่งเข้าตลาดใหม่ๆ ผู้ใช้ 70% จะตกอยู่ในกลุ่มวัยรุ่นอายุ 18-24 ปีเท่านั้น
กิจกรรมหลักของผู้ใช้ Kindle คือการอ่านหนังสือ ชมภาพยนตร์ และท่องเที่ยว น่าสนใจที่ ทั้งสามกิจกรรมนี้ มีจุดร่วมที่น่าสนใจอยู่เหมือนกัน นั่นก็คือ เป็นกิจกรรมที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์ใหม่ๆ นอกเหนือไปจากในชีวิตประจำวัน บางครั้ง ก็ทำให้เรารู้สึกได้ผจญภัย เมื่อเราเข้าถึงหนังสือ หรือภาพยนตร์เรื่องนั้นๆ อย่างลึกซึ้ง ซึ่งอาจสรุปได้ว่า ผู้ใช้ Kindle มีลักษณะนิสัยคล้ายกับความเป็นพหูสูตร หรือผู้ที่ต้องการเพิ่มพูนความรู้อยู่ตลอดเวลา
สำหรับเครื่อง Kindle เอง ในมุมของนักท่องเที่ยวนั้น ก็เป็นเพื่อนร่วมทางที่ดีมากๆ เพราะตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา ไม่เป็นภาระ ทั้งยังใช้งานได้ยาวนานถึง 1 เดือนโดยที่ไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่เลยทีเดียว
เมื่อถามถึง ความสามารถที่ต้องการใน Kindle รุ่นต่อไป คนส่วนใหญ่ 60% ตอบว่าต้องการจอภาพที่คมชัด และมีแสงสว่างในตัวเองสำหรับใช้อ่านยามค่ำคืน ซึ่งก็เป็นไปตามคาด เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2555 เป็นวันแถลงข่าวของ Amazon.com สำหรับการเปิดตัว Kindle รุ่นใหม่ยกชุด และเพิ่มความสามารถที่ผู้บริโภคต่างต้องการคือ เทคโนโลยี Paperwhite ที่ช่วยให้ Kindle มีแสงสว่างในตัวเอง แต่ยังคงอ่านได้สบายตาเช่นเคย เพราะแสงที่ยิงแสงเข้าจอ ในทิศทางตรงกันข้ามกับ LCD ที่ส่องแสงตรงเข้าที่ตา ซึ่งก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ ทั้งนี้ ยังเพิ่มความคมชัดของจอภาพขึ้นอีก 62% จนตัวอักษรมีความคมชัดไม่ต่างกับหยดหมึกบนกระดาษ พร้อมทั้งเพิ่มความต่างสีอีก 25% ทั้งหมดนี้ Jeff Bezos พูดย้ำกับนักข่าวในวันงานซ้ำอยู่หลายรอบว่า “มันแพงขึ้นไหม, ใช่, มันคุ้มกับลูกค้าของเราไหม, แน่นอน”
มีนักข่าวถาม Jeff Bezos ว่า เหตุใดจึงทำราคาเครื่องได้ต่ำถึงขนาดนี้ (เทียบกับคู่แข่งแล้ว Kindle เป็นอุปกรณ์อ่านหนังสือที่ถูกที่สุดในตลาด) Jeff ตอบผู้สื่อข่าวไปว่า เขาต้องการหาเงินเมื่อผู้บริโภค “ใช้” สินค้าเรา ไม่ใช้เมื่อเขา “ซื้อ” สินค้าเรา
สนใจดูข้อมูล Infographic ของ ผู้ใช้ Kindle ในประเทศไทยได้ที่ infographic-2012
Reference:
http://seanmehan.globat.com/blog/2012/08/26/amazon-sets-new-bars-for-customer-centricity/
http://www.nytimes.com/2011/05/20/technology/20amazon.html
KINDLE’S WAY: บทความที่เล่าเบื้องลึกของ kindle และ Amazon อย่างเข้มข้น สำหรับ kindle Power User ไม่ควรพลาด!! พบกันได้ได้ที่นิตยสาร GM ครับ [อ่านตอนอื่นๆ ได้ที่นี่เลย]