KINDLE’S WAY: บทความที่เล่าเบื้องลึกของ kindle และ Amazon อย่างเข้มข้น สำหรับ kindle Power User ไม่ควรพลาด!! พบกันได้ได้ที่นิตยสาร GM ครับ [อ่านตอนอื่นๆ ได้ที่นี่เลย]
ในความทรงจำของผมแล้ว kindle เข้ามาในไทยช่วงแรกแบบไม่ค่อยสู้ดีนัก มันเป็นอุปกรณ์ที่ดูโง่เขลา เพราะทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากอ่านหนังสือ แถมยังไร้สีสันจืดชืด จนคนเมินเฉย และหันหน้าไปหาอุปกรณ์ “ไฮเทค” สิบเจ็ดล้านสี (24-bit) ตัวอื่นๆ แทน
ผมเป็นคนชอบจดครับ จดมันทุกอย่าง ตั้งแต่ตอนนอนอยู่บนเตียงนอน เดินห้างจู่ๆ นึกอะไรได้ก็จด อ่านหนังสือจบเล่มก็ชอบจด ยิ่งได้โปรแกรม Evernote มา ก็ยิ่งช่วยเชื่อมความคิดที่กระจัดกระจายไม่มีทิศทาง มารวมไว้ให้อยู่ในที่ๆ เดียวกัน ผมเลยจดมันมากขึ้นไปอีก แม้แต่คำพูดของวินมอเตอร์ไซค์ผมยังเคยจดมาแล้วเลย!
เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ผมไปเที่ยวพม่า และก็ไม่พลาดที่จะจดประสบการณ์ เรื่องราวต่างๆ ที่พบเจอเอาไว้เช่นกัน ผมบันทึกเอาไว้ในสมุดเล่มนึง เผื่อว่าคราวหน้าคราวหลัง ได้ย้อนกลับมาอ่าน จะเป็นตัวช่วยทำให้รำลึกการผจญภัยครั้งนั้นได้
สิ้นปีนี้ก็เหมือนกัน ที่สามารถออกปากเรียกได้ว่า เป็นปีทองของ kindle ในประเทศไทยได้เลย อุปกรณ์แผ่นบางๆ หน้าจอขาวดำ ที่ลบไปมาได้ เหมือนกระดานชนวนเครื่องนี้ กลายเป็นเครื่องมือจุดกระแสให้คนไทยมีเครื่องมือทางเลือกสำหรับ “การอ่าน” มากขึ้น ผมจึงขออนุญาตบันทึก และเล่าการผจญภัย ตั้งแต่ต้นปี ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักมักจี่และเห็นค่าเคร่ื่องนี้มากนัก จนกระทั่งวันเวลาผ่านไป kindle ก็ค่อยๆ แทรกซึมอย่างเนียนๆ เข้ามาอยู่ในสังคมไทย เสียงค่อนดูถูกดูแคลนเจ้าจอขาวดำตัวนี้ ค่อยๆ น้อยลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมันกลายเป็นที่ยอมรับ และถูกอกถูกใจใครต่อใครหลายๆ คน ภายหลังจากนั้นไม่นานนัก
“อ่านหนังสือได้อย่างเดียว ซื้อมาทำไม”
“จอมันกระพริบแบบเนี้ยนะหรอ?”
“No SD Card extension, it’s useless”
ข้างบนนี้ คือบันทึกคำพูดของผู้เข้าชมบู๊ธที่ผมนำ kindle ไปอวดโฉมสายตาผู้เข้าชมงานหลายๆ คน น่าจะเป็นครั้งแรกในไทย ที่มีเทคโนโลยีล้ำหน้าอย่างจอภาพ E-Ink แสดงตัวในงานระดับประเทศแบบนี้ จึงไม่แปลกใจเลยที่จะมีผู้คนมากมาย ต่างเข้ามารุมล้อมให้ความสนใจกันอย่างล้นหลาม ตั้งแต่ ฝ่ายจัดซื้อของบริษัทยักษ์ใหญ่, Blogger ชื่อดังในโลกอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงผู้คนทั่วไป ที่แสดงความรู้สึก ทั้งตื่นตาตื่นใจ, แปลกใจ, ไม่เข้าใจ และไม่รู้จะเอาไปใช้ทำอะไร
พี่คนนึงชี้นิ้วไปที่กรอบรูปบนโต๊ะที่ผมใส่กระดาษบอกรายละเอียดทางเทคนิคเอาไว้ แล้วถามผมว่า “รุ่นนี้ขายเท่าไหร่?” นั่นทำให้ผม และทุกคนที่ได้ฟังเรื่องนี้ ‘อมยิ้ม’ ไปตามๆ กัน เพราะพี่แกแยกความแตกต่างระหว่างกระดาษจริง กับ เครื่อง kindle ไม่ออก
เนื่องจากผมทำทั้งหมดแบบตัวคนเดียว, เรียกได้ว่าเป็น One-Man-Band, ตั้งแต่บัญชี จัดซื้อ รวมถึงงานขาย ทำให้ผมเจอลูกค้าแบบตัวต่อตัว ด้วยตนเองทั้งหมด ผมจึงได้รับฟังเสียงของผู้คนต่างๆ พูดถึงเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้มากมาย มีทั้งประทับใจและผิดหวัง อาจจะเพราะคาดการณ์ผิดไปจากสิ่งที่หมายไว้แต่ต้นก็เป็นได้
มีพี่สาวคนนึง งานของเขาวนเวียนอยู่ในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ เขาเล่าว่า ยิ่งเวลาผ่านไป อะไรที่เกี่ยวข้องในวงการนี้ ก็ยิ่งหมุนเร็วขึ้นแบบทวีคูณตามกฎของมัวร์ ลู่วิ่งของผู้ที่ทำงานในสายนี้ จึงเพิ่มระดับขึ้นไปเรื่อยๆ ใครก็ตามที่วิ่งช้ากว่าความเร็วสายพาน ก็ต้องตกรอบ และพ่ายแพ้จากไป ในขณะเดียวกัน ก็จะมีเด็กรุ่นใหม่ไฟแรง ที่พร้อมเข้ามาทำงานแทนที่เราตลอดเวลา แถมเด็กเหล่านั้น ดูท่าจะ “ปล่อยแสง” เพื่อเจิดจรัสในวงการได้อย่างไม่ยากเย็นนัก แต่พี่สาวคนนี้่ไม่ยอมแพ้ เขาเป็นโปรแกรมเมอร์และอาจารย์พิเศษ ที่ต้องการประสบความสำเร็จในสายงานนี้ เช่นเดียวกับคนอื่นๆ สิ่งที่จะช่วยเขาได้ ก็มีหนังสือต่างๆ เช่น แนวการเขียนโปรแกรมแบบใหม่ๆ เทคนิค หรือเครื่องมือเฟรมเวิร์คที่คอยทุ่นแรง เป็นตัวช่วยในการฝึกฝนพัฒนาฝีมือ นั่นยิ่งทำให้เขาต้องอ่านหนังสือเพื่อเพิ่มพูนความรู้อยู่ตลอดเวลา เยอะขึ้น หนาขึ้น หนักขึ้น
ก่อนหน้านี้ ทางเลือกของเขามีเพียง 2 ทาง คือ อ่านบนจอ LCD (คอมพิวเตอร์, แท็บเล็ต) หรือไม่ก็ปริ้นท์ออกมาอ่านมันซะเลย ซึ่งทางเลือกแรก ทำให้เขาอยู่กับมันได้ไม่นาน เพราะแสงจ้าๆ ของจอ LCD ส่งผลให้เขารู้สึกสุขภาพโดนบั่นทอนไปเรื่อยๆ ในขณะที่การปริ้นท์เอกสารออกมาอ่าน นอกจากจะมีค่าใช้จ่ายสูงแล้ว การหยิบพกตั้งกระดาษเป็นปึกๆ ไปไหนมาไหน เหมือน Textbook เล่มใหญ่ๆ ดูท่าจะไม่เหมาะกับผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างพี่เขาเท่าไหร่นัก
“kindle รุ่นใหม่หรอ?” ผมยังแอบส่งข่าวให้พี่เขาผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ อยู่เสมอๆ ยามที่มีอะไรน่าสนใจเกี่ยวกับเครื่องที่ว่านี้
“พี่คำนวนแล้วนะน้อง ปีที่แล้วพี่ประหยัดค่าพิมพ์เอกสารไปทั้งหมด ‘เป็นแสน’ kindle นี่เข้ามาช่วยชีวิตพี่มากจริงๆ ตั้งแต่เรื่องเงิน จนถึงสุขภาพ ทำให้พี่ได้อ่านหนังสือมากกว่าแต่ก่อนเยอะเลย” ทั้งๆ ที่พี่เขาชม kindle แต่ผมก็รู้สึกหัวใจพองโตตามไปด้วย ไม่รู้ทำไม
“ได้มาใช้สักที พี่ชอบอ่านหนังสือหนะ แต่บางเล่มมันก็ไม่มีขายในไทยนะ ได้ไอ้นี่มาก็ทุ่นแรงได้ดีเลย พี่จะได้ไม่ต้องสั่งหนังสือเป็นเล่มๆ อีกแล้ว เสียเวลารอ” พี่ชายอีกคนนึงบอกกับผม ระหว่างที่อธิบายการใช้งานให้เขาฟัง
“พี่จะซื้อให้ลูกอ่าน สมัยเด็กๆ พี่นะ ชอบอ่านหมดแหละ อย่างพวก The Secret Garden หรือ Grimm’s Fairy Tales นี่นะ สนุกมาก ลูกพี่ก็ชอบเหมือนกัน แล้วนี่อ่านฟรีด้วยหรอ? นี่มันดีมากเลยนะ” ผมบอกพี่เขาไปว่า หนังสือชุด Classics เหล่านี้ ทาง Amazon ให้ดาวน์โหลดได้ฟรี เพราะเป็นหนังสือประเภท Public Domain
“ผมรักหนังสือนะ แต่น้ำท่วมปีที่ผ่านมา ทำเอาหนังสือบ้านผมหายไปหมดเลย เห็นสภาพแล้ว อเนจอนาจใจมาก” เขาเล่าบรรยากาศตอนเปิดประตูบ้านครั้งแรกหลังน้ำท่วมให้ผมฟัง ซึ่งทำเอาผมหดหู่ใจ ราวกับโดนดูดไปอยู่ในวินาทีเดียวกับเขาตอนนั้นเลย “เก็บไว้ใน kindle นี่ก็สบายใจไปเปาะนึงนะ พกไปไหนก็ง่าย ไม่ต้องคอยปัดฝุ่น หรือกลัวมันชำรุดด้วย”
สำหรับผมแล้ว ผมไม่เคยคิดว่าคนไทยอ่านหนังสือน้อยเลยครับ เพียงแต่เขายังไม่เจอหนังสือที่ถูกใจ และติดภาพลักษณ์ว่า “หนังสือ คือ หนังสือเรียน” (ที่ผมก็ยอมรับแต่โดยดีเช่นกันว่ามันน่าเบื่อ) แต่หนังสือดีๆ อีกหลายเล่ม กลับพลอยโดนแขวนป้ายแบบนั้นไปโดยไม่รู้ตัว ยิ่งมีคำพูดประเภทที่ว่า “คนไทยอ่านหนังสือปีละ 8 บรรทัด” (เป็นข้อมูลเท็จครับ) ยิ่งคอยหนุนความคิดของคนที่ไม่อ่านหนังสือไปว่า “ฉันไม่อ่านหนังสือ แต่ฉันก็ปกติเหมือนคนส่วนมากนะ”
แต่พอหลายคนได้จับ kindle นอกจากการใช้งานที่สะดวกสบายแล้ว ยังส่งผลต่อ ภาพลักษณ์ที่ดูเท่ห์ โดดเด่น ทันสมัย จนกลายเป็นผลพลอยได้ที่อีกหลายๆ คนที่ผมเจอ เริ่มหันมาอ่านหนังสือ และฝึกฝนภาษา ด้วยเครื่องมือที่ดูล้ำๆ ตัวนี้ มันเปลี่ยนทัศนคติที่เขามีต่อหนังสือไป และหากโชคดีพอ เมื่อเขาได้เจอหนังสือที่ชอบแล้ว ผมเชื่อว่า นิสัยรักการอ่านนี้ จะเติบโตและจะติดตัวเขาไปตลอด (ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญ ในการพัฒนาตัวเองต่อไปในอนาคต)
สำหรับผมแล้ว ผมได้เจอหนังสือดีๆ ตั้งแต่เด็ก เลยติดนิสัยที่ต้องมีอะไรอ่านติดตัวเสมอมา แต่ สำหรับ kindle แล้ว มันให้อะไรกับมากกว่านั้น ทั้งเปิดโลกสู่การผจญภัย ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ได้รับ พร้อมพัฒนาต่อยอดความคิดของผมมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงวันนี้แล้ว kindle คือของขวัญล้ำค่าที่สุดชิ้นหนึ่งของผมครับ ผมอยากให้ทุกคน ได้เจอของขวัญล้ำค่า (ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม) แบบนี้เช่นกัน
Merry X’mas ครับ
อ่าน “500 เหตุผล ที่คนรัก kindle” ได้ที่นี่ครับ http://www.ereaderok.com/500-reasons-why-we-love-kindle/
KINDLE’S WAY: บทความที่เล่าเบื้องลึกของ kindle และ Amazon อย่างเข้มข้น สำหรับ kindle Power User ไม่ควรพลาด!! พบกันได้ได้ที่นิตยสาร GM ครับ [อ่านตอนอื่นๆ ได้ที่นี่เลย]